นอกจากกลิ่นอับ ผ้าไม่หอม และขจัดคราบไม่หมดแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยในการซักผ้า ก็คือ “ผ้าสีตก” ซึ่งบางครั้งก็โชคร้ายมาแจ็คพอตแตกที่เสื้อผ้าตัวโปรดหรือราคาแพงของเราได้ จนทำให้ตัดสินใจทิ้งไม่ลง จะใส่อยู่
บ้านอย่างเดียวก็ไม่ไหว ฉะนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมเลยถือโอกาสรวบรวมวิธีซักผ้าสีตก หรือวิธีแก้ผ้าสีตกด้วยของใช้ใกล้ตัวมาฝากกัน โดย
การทำความสะอาดแต่ละวิธีนั้นง่ายดายและน่าลองมาก ๆ แต่ส่วนใหญ่ต้องทำหลังเจอคราบทันที หรือห้ามปล่อยให้ผ้าแห้งจะเห็นผลดีที่สุดค่ะ
1. ซักซ้ำทันที
วิธีแก้ปัญหาผ้าสีตกที่ง่ายที่สุด คือ การซักซ้ำ โดยต้องทำหลังจากซักเสร็จแล้วเจอคราบทันที ขั้นตอนแรกให้เปิดน้ำล้างเสื้อที่สีตกอีกครั้งก่อน จากนั้นก็เทผงซักฟอกลงบนคราบโดยตรง แล้วใช้แปรงสีฟันเก่ามาช่วยขัดออก อาจจะต้องทำซ้ำหลายครั้งบ้างเพื่อกำจัดให้คราบหมดเกลี้ยง แต่ถือเป็นวิธีที่ง่ายดายและสะดวกไม่น้อยเลยทีเดียว
2. น้ำส้มสายชู
เพียงแค่ผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วยตวง กับน้ำเย็น 1 แกลลอน เข้าด้วยกัน จากนั้นใส่ผ้าที่สีตกลงไป จะแช่ทั้งชุดหรือแค่จุดที่เปื้อนก็ได้ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วนำออกมาล้างด้วยน้ำเย็น ก่อนจะซักอีกทีในเครื่องซักผ้า ใส่ผงซักฟอกและน้ำสะอาดตามปกติ เท่านี้ก็จะพบว่าคราบสีตกจางหายไปแล้ว สามารถนำไปตากให้แห้งและนำกลับมาใส่ได้เหมือนเดิม อ้อ แม้วิธีนี้จะเป็นธรรมชาติและขจัดคราบฝังแน่นได้ดี แต่เหมาะกับผ้าสีขาวเท่านั้น ที่สำคัญก่อนจะลงมือทำ อย่าลืมทดสอบในมุมเล็ก ๆ เพื่อความปลอดภัยของเสื้อผ้าด้วย
3. น้ำมะนาว
เพื่อแก้ไขปัญหาเสื้อสีตกแบบง่าย ๆ ให้เราหยดน้ำมะนาวลงบนคราบ จากนั้นก็ซับ ๆ กด ๆ ให้น้ำมะนาวออกฤกษ์กำจัดสีที่ตกปนมา เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากคราบยังไม่เกลี้ยงก็สามารถทำซ้ำได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าวิธีนี้นอกจากจะช่วยให้เสื้อผ้ากลับมาสวยงาม ไม่มีสีตกกวนใจเหมือนเดิมแล้ว ยังเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นไปได้ในตัวอีกด้วยนะ
4. น้ำยาล้างจานกับแอมโมเนีย
หากบ้านใครมีน้ำยาล้างจานและแอมโมเนีย ให้จับทั้งคู่มาผสมกันอย่างละ 1 ส่วน จากนั้นก็จุ่มผ้าที่สีตกลงไป นำแปรงสีฟันเก่ามาขัดบริเวณคราบแล้วแช่ไว้ประมาณ 30 นาที ก่อนจะนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด เท่านี้คราบสีตกก็จะจางลงอย่างเห็นได้ชัด สามารถทำซ้ำได้ตามต้องการ และทางที่ดีควรทำในบริเวณที่มีอาการถ่ายเทสะดวกด้วย
5. ชาเขียวและเกลือ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าชาเขียวและเกลือสามารถแก้ปัญหาผ้าสีตกได้ โดยขั้นแรกให้เราแยกผ้าสีตกออกมาซักน้ำเย็นในเครื่องซักผ้าประมาณ 15 นาที จากนั้นก็หาถังเปล่ามาละลายชาเขียวกับน้ำร้อน โดยกะให้ชาเขียว 1 ถุง ต่อน้ำร้อน 0.2 ลิตร แล้วใส่ผ้าที่สีตกใส่ลงไปแช่ประมาณ 15 นาที ก่อนนำออกมาพาดบริเวณที่สะอาด โรยเกลือให้ทั่วพร้อมปล่อยทิ้งไว้ให้ซึมอีกประมาณ 15 นาที ค่อยนำไปซักในเครื่องซักผ้าแบบปกติ แค่นี้ก็จะแก้ปัญหาสีตกได้แล้วค่ะ
6. สารฟอกขาว
วิธีซักผ้าสีตกด้วยสารฟอกขาว หลังจากแยกผ้าที่เลอะออกมาและนำไปปั่นในน้ำเย็นประมาณ 3-4 นาทีอีกแล้ว ให้กดหยุดแล้วเติมสารฟอกขาวเข้าไปประมาณ ½ ถ้วย โดยถ้าเป็นผ้าขาวให้เลือกใช้สารฟอกผ้าขาวที่อยู่ในกลุ่มคลอรีน บลีช (Chlorine Bleach) ถ้าเป็นผ้าสีให้เลือกใช้สารฟอกขาวที่อยู่ในกลุ่มออกซิเจน บลีช (Oxygen bleach) จากนั้นก็กดปั่นต่ออีกครั้งสักประมาณ 5 นาที ก่อนจะกดปิดและแช่ผ้าทิ้งไว้ 15 นาที ตามด้วยระบายน้ำเดิมทิ้งก่อนจะใส่น้ำเย็นลงไปใหม่อีกครั้ง พร้อมกับเติมน้ำยาซักผ้าทั่วไปและตั้งค่าซักตามปกติ เมื่อเสร็จเรียบร้อยดีก็นำมาตาก รับรองผ้าจะกลับมาสะอาดเหมือนเดิมแน่นอน แต่ถ้าหากคราบฝังแน่นเกินจนยังหลงเหลือรอยสีตกอยู่บ้าง ให้ทำตามวิธีเดิมอีกครั้งก็จะช่วยได้ค่ะ
7. สารบอแรกซ์
สำหรับเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะกับสารฟอกขาว ขอแนะนำให้ใช้สารบอแรกซ์แทน โดยสามารถใช้ในเครื่องซักผ้าแทนผงซักฟอกได้เลย ส่วนปริมาณเหมาะสมอยู่ที่ 1 ช้อนครึ่ง/เสื้อผ้า 1 ตัว นั่นเอง
8. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยจบปัญหาผ้าสีตกได้ ก็คือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% โดยถ้าสีตกไม่เยอะ ให้ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำเปล่าอย่างละ 1 ส่วนเข้าด้วยกัน จากนั้นก็นำผ้าที่สีตกแช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ค่อยล้างออก และทำวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าคราบจะจางหมด
ส่วนสำหรับคราบที่หนักขึ้นมา ให้ใส่ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ประมาณ 240 มิลลิลิตร ลงไปในเหยือก ก่อนจะเติมน้ำเปล่าตามจนเต็ม พร้อมใส่น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบ เช่น มินต์หรือลาเวนเดอร์ ลงไป จากนั้นก็นำไปเทใส่กะละมังและนำผ้ามาทิ้งไว้ข้ามคืน หรืออย่างน้อย 8 ชั่วโมง แล้วค่อยล้างออกให้สะอาดพร้อมตากให้แห้ง ก็จะช่วยให้คราบสีตกจางลงไปได้ อย่างไรก็ตามอย่าลืมทดสอบกับมุมเล็ก ๆ ก่อนลงมือทำจริงด้วย เนื่องจากผ้าบางชนิดอาจจะไม่เหมาะกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์นั่นเอง
หากใครกำลังเจอปัญหาผ้าสีตกอยู่ ก็ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ใช้กันดู รับรองช่วยลดคราบเปื้อนกวนใจลงได้แน่นอน ทว่าทางที่ดีอย่าลืมแยกผ้าตามสีก่อนซักทุกครั้ง ทดสอบซักผ้าสีฉูดฉาดตัวใหม่ต่างหาก พร้อมทั้งอ่านฉลากและทำตามอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ผ้าสีตกได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก hunker, homequicks, wikihow และ ehow