” สำหรับบ้านไหนที่คุณพ่อคุณแม่ มีความจำเป็นต้องกลับไปทำงานหลังจากช่วงลาคลอดหรือลาเลี้ยงลูกแล้ว และไม่มีญาติมาช่วยเลี้ยงเจ้าตัวเล็กให้ การมีพี่เลี้ยงเด็กจึงอาจเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันในการหาพี่เลี้ยง ” ดังนั้น บทความนี้จะมาช่วยเลือกเทคนิคหาพี่เลี้ยงน้องยังไงให้ถูกใจ
คำว่าพี่เลี้ยงเด็กนั้นอาจไม่ได้จำกัด แค่การดูแลลูกน้อยของเราเท่านั้น แต่อาจรวมไปถึงงานบ้านประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น การซักเสื้อผ้าของน้อง หรือ ทำอาหาร ครอบคลุมไปถึงการดูแลทำความสะอาดเพิ่มเติมได้ เมื่อคุณพ่อคุณแม่สโคปหรือจำกัดความของงานที่ต้องทำของพี่เลี้ยงได้ ก็ถือเป็นด่านแรกในการมองหาพี่เลี้ยงเด็กเหล่านั้น ว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะจะมาดูแลเจ้าตัวเล็กหรือไม่ ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ที่จะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ ได้แก่ ประสบการณ์ – ความสะอาด – สุขภาพและความน่าไว้ใจค่ะ
● สุขภาพแข็งแรง
เพราะเด็กเล็กยังมีภูมิต้านทานที่ไม่แข็งแรงเท่าไหร่นัก การเลือกพี่เลี้ยงมาดูแลลูกของเรา ก็ควรเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย โดยคุณพ่อคุณแม่ควรขอใบรับรองแพทย์ในการตรวจร่างกาย ก่อนรับเข้าทำงานเพื่อความปลอดภัย
● รักความสะอาด
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก คุณพ่อคุณแม่จะต้องมั่นใจในเรื่องของความสะอาด เช่น ตัดเล็บเรียบร้อย แต่งตัวสะอาด และดูแลเรื่องความสะอาดให้เจ้าตัวเล็กได้ดี โดยเฉพาะการเลือกพี่เลี้ยงเด็ก ที่จะมาดูแลเด็กอ่อนตั้งแต่ 3 เดือนเป็นต้นไป อาจจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ
● มีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็ก
ข้อนี้ถือว่าสำคัญไม่แพ้ข้ออื่น ๆ เลย โดยเฉพาะพี่เลี้ยงคนแรกของเจ้าตัวเล็ก หากพี่เลี้ยงเด็กมีประสบการณ์ในการเลี้ยงเด็กมาก่อน เขาจะรู้และเข้าใจวิธีการเลี้ยงเด็ก มีความอดทนต่อเสียงร้องและสามารถดูแลในเรื่องต่าง ๆ ของของเจ้าตัวเล็กได้
อีกทั้งพี่เลี้ยงเด็กควรรู้วิธีปฐมพยาบาลเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือการทำ CPR เป็น เพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉินในเบื้องต้นได้
● สามารถไว้ใจและเชื่อใจได้
ข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการหาพี่เลี้ยงเด็ก ต้องมั่นใจได้ว่า ระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ เขาจะไม่ได้ทอดทิ้ง หรือแม้แต่ทำร้ายลูกน้อยทั้งทางร่างกายและจิตใจ พี่เลี้ยงเด็กที่ดีต้องมีใจรักเด็ก อ่อนโยน ใจเย็น ดูแลและใส่ใจเจ้าตัวเล็กของคุณเหมือนกับตอนที่คุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วย
เมื่อได้คุณสมบัติที่อยากได้แล้ว คุณแม่จะหาพี่เลี้ยงคุณสมบัติตรงตามต้องการได้จากที่ไหนบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นช่องทางโซเชียลแบบไหน ปัจจุบันค่อนข้างเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว ตรงจุดนี้อาจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดหาพี่เลี้ยงให้จากบริษัทรับจัดหา รวมถึงแม่บ้านบางคนอาจผ่านการทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กของกลุ่มแม่ๆ มาก่อน แต่เมื่อลูกโตแล้วความจำเป็นในการใช้ลดลง สามารถแนะนำหรือส่งต่อเป็นผู้ช่วยให้กับคุณแม่คนใหม่ที่ต้องการได้ แต่การลงประกาศอย่างละเอียดผ่านโซเชียล ก็อาจเป็นช่องโหว่ในการแฝงตัวเข้ามาของมิจฉาชีพได้เช่นกัน โดยที่คุณแม่อาจลืมตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดอีกครั้งเพราะความเชื่อใจคนในกลุ่ม ฉะนั้นก่อนรับเข้ามาทำหน้าที่ คุณแม่อย่าลืมตรวจสอบประวัติให้ดีและไม่ประมาทในการตัดสินใจเลือกค่ะ
✅ข้อดี : ไม่ต้องเสียค่าบริการจากบริษัทรับจัดหาพี่เลี้ยง
❌ข้อเสีย : มีความเสี่ยงที่จะเจอมิจฉาชีพได
วิธีนี้ช่วยคัดกรองคนได้กว่าวิธีแรก เพราะเป็นคนรู้จักของคนที่ทำงานในบ้านเรา หรือเพื่อนเรา แต่อย่าลืมว่าการสังเกตจากการทำงานของแม่บ้านคนเก่า หรือเพื่อนที่แนะนำเรา ก็ไม่อาจจะประเมินพี่เลี้ยงคนใหม่ได้ว่าจะมีฝีมือดีเช่นเดียวกันหรือไม่
✅ข้อดี : ได้มาจากคนรู้จักกัน เป็นการคัดกรองได้เบื้องต้น
❌ข้อเสีย : อาจต้องจ่ายค่าสินน้ำใจให้แม่บ้านคนเก่าหรือเพื่อนเล็กน้อย และไม่มีการทดสอบฝีมือแรงงานก่อนรับ
บริษัทรับจัดหาพี่เลี้ยง จะมีพี่เลี้ยงทุกรูปแบบที่เราสามารถเลือกให้ตรงตามความต้องการได้ เช่น ต้องการพี่เลี้ยงที่ทำกับข้าวได้ เป็นแม่บ้านด้วย หรือ พูดภาษาอังกฤษได้ก็มีให้เลือกเช่นกัน แต่ยิ่งมีคุณสมบัติและความสามารถมาก ค่าตัวพี่เลี้ยงก็จะมีราคาสูงตาม ซึ่งนอกจากค่าใช้จ่ายเหล่านี้แล้ว คุณแม่ควรจะคุยครอบคลุมไปถึง Work Permit ด้วย หากเป็นแรงงานต่างด้าวที่เราต้องดูแลในระยะยาวอีกอย่างหนึ่งเมื่อคุณแม่เลือกพี่เลี้ยงจากบริษัทจัดหา หากเกิดความผิดพลาดจากการทำงาน เช่น มาทำงานแล้วคุณสมบัติไม่ตรงตามที่กล่าวอ้างไว้ คุณแม่ก็สามารถเปลี่ยนพี่เลี้ยงคนใหม่ให้เป็นไปตามคุณสมบัติที่พึงพอใจได้ (ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด) รวมถึงบริษัทจัดหาพี่เลี้ยงจะมีหลักเกณฑ์คัดกรองพี่เลี้ยงตั้งแต่ เสื้อผ้า หน้า ผม กลิ่นปาก กลิ่นตัว ความสะอาด บุคลิก ตัวอ้วน ตัวใหญ่ ตัวเล็ก ให้แล้วเบื้องต้น
✅ข้อดี : ผ่านการคัดกรองอย่างละเอียดจากบริษัทจัดหาพี่เลี้ยง
❌ข้อเสีย : มีค่าใช้จ่ายในการจัดหาเพิ่ม รวมถึงงบประมาณที่ใช้ค่อนข้างสูงกว่า
ซึ่งช่วงนี้อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid – 19 คุณแม่อาจเลือกใช้วิธีสัมภาษณ์ผ่าน VDO Call แทน ก็จะเพิ่มความปลอดภัยให้เจ้าตัวเล็ก ลดการสัมผัสจากคนภายนอกด้วยค่ะ
ปัจจัยในการจ่ายเงินเดือนพี่เลี้ยงแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ หน้าที่ความรับผิดชอบ ระยะเวลาการทำงานต่อวัน ค่าโอที หรือ อื่นๆ เพิ่มเติม โดยราคาที่คุณพ่อคุณแม่กำหนด อาจสอบถามราคาจากคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่น จากคุณสมบัติการทำงานที่ใกล้เคียงกัน แล้วนำมาปรับเพิ่มลดตามความเหมาะสมของบ้านเรา
งบประมาณของพี่เลี้ยงเด็กมีตั้งแต่เดือนละ 10,000-20,000 บาท (ไม่รวมวันหยุดเดือนละ 4 วัน หากมีค่า OT เฉลี่ยเพิ่มวันละ 400-1,000 บาท ต่อวัน) แต่ถ้าเลือกจากบริษัทจัดหาพี่เลี้ยงก็จะมีราคามาตรฐานเริ่มต้นที่
●พี่เลี้ยงเด็ก ช่วงระหว่าง ทารกแรกเกิด ถึง 10 เดือน ค่าจ้างเริ่มต้น 11,000 – 14,000 บาท ต่อเดือน
● พี่เลี้ยงเด็กโตตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป ค่าจ้างเริ่มต้น 10,000 – 11,000 บาท ต่อเดือน
● ประสบการณ์วิชาชีพระดับผู้ช่วยพยาบาล 16,000-19,000 บาท ต่อเดือน
(ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามเงื่อนไขเพิ่มเติมของแต่ละครอบครัว) รายละเอีอยดต่างๆ อาจไม่คงที่ขึ้นอยู่กับบริษัทจัดหางานแต่ละที่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกพี่เลี้ยงด้วยวิธีไหน หากทำเช็คลิสต์คุณสมบัติที่คุณแม่ต้องการเตรียมไว้ให้พร้อมก็จะไม่ทำให้พบปัญหาในภายหลังได้มากขึ้นค่ะ
Cr. ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก The 1 Family
ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ท่านไหน สนใจหาพี่เลี้ยงเด็ก แนะนำ บริษัทจัดหาแม่บ้านดีดี ได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองหลายครอบครัว ด้วยหลากหลายเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าต่างไว้วางใจจนเกิดการบอกต่อ ยินดีให้บริการจัดส่ง แม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก คนดูแลผู้สูงอายุ ได้ตลอดทุกเมื่อ